Sound Bar Quick Guide

การเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์

ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงที่สูงขึ้นเมื่อเชื่อมต่อซาวน์บาร์กับซับวูฟเฟอร์แบบไร้สาย

การเชื่อมต่อกับซับวูฟเฟอร์แบบไร้สายโดยอัตโนมัติ

หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ซับวูฟเฟอร์แบบไร้สายจะเชื่อมต่อกับซาวน์บาร์โดยอัตโนมัติ เชื่อมต่อซาวน์บาร์กับซับวูฟเฟอร์ตามลำดับต่อไปนี้

1. a เสียบปลั๊กของซับวูฟเฟอร์แบบไร้สายเข้ากับเต้ารับ
2. b เสียบสายไฟเข้ากับอะแดปเตอร์ AC
3. c ต่อสาย อะแดปเตอร์ AC เข้ากับช่อง DC IN (อินพุตอะแดปเตอร์ AC ) ที่ด้านหลังของผลิตภัณฑ์
4. d เสียบสายไฟที่เชื่อมต่อกับอะแดปเตอร์ AC เข้ากับเต้ารับ

1. e มื่อเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติแล้ว ท่านจะเห็นไฟ LED ที่ด้านหน้าของซับวูฟเฟอร์แบบไร้สายสว่างขึ้นเป็นสีเขียว

หมายเหตุ

ทำให้แน่ใจว่าใช้อะแดปเตอร์ AC ที่ให้มา การใช้อะแดปเตอร์ AC อื่น อาจทำให้เกิดการทำงานผิดพลาดและทำให้การรับประกันผลิตภัณฑ์เป็นโมฆะ

การตรวจสอบการเชื่อมต่อด้วยไฟ LED ที่ด้านหน้าของซับวูฟเฟอร์แบบไร้สาย

ท่านสามารถตรวจดูสถานะการเชื่อมต่อได้โดยการดูไฟ LED ที่ด้านหน้าของซับวูฟเฟอร์แบบไร้สาย

สีไฟ LED	สถานะ
กะพริบเป็นสีเขียว	อยู่ระหว่างทำการเชื่อมต่อ
เขียว	เชื่อมต่อสำเร็จแล้ว
สีแดง	การเชื่อมต่อไม่สมบูรณ์ ซับวูฟเฟอร์กำลังสแตนด์บาย
ปิด	ไม่ได้เสียบปลั๊ก

การเชื่อมต่อซับวูฟเฟอร์แบบไร้สายด้วยตนเอง

หากท่านเห็นไฟ LED สีแดงที่ด้านหน้าของซับวูฟเฟอร์ไร้สาย หมายความว่าซาวน์บาร์ไม่ได้เชื่อมต่อกับซับวูฟเฟอร์ หากเป็นกรณีนี้ ให้เชื่อมต่อตามลำดับต่อไปนี้

1. a กดปุ่ม พลังงาน บนซาวน์บาร์เพื่อปิดเครื่อง
2. b กดปุ่ม PAIRING ที่ด้านหลังของซับวูฟเฟอร์ไร้สาย ตรวจดูว่าไฟ LED ที่ด้านหน้าของซับวูฟเฟอร์กะพริบเป็นสีเขียวหรือไม่ หากท่านเห็นไฟ LED สีแดงบนซับวูฟเฟอร์ไร้สาย ให้กดปุ่มที่ด้านหลังของซับวูฟเฟอร์ค้างไว้อีกครั้ง

1. c กดปุ่ม พลังงาน บนซาวน์บาร์เพื่อเปิดเครื่อง
2. d เมื่อการเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว ท่านจะเห็นไฟ LED สีเขียวที่ด้านหน้าของซับวูฟเฟอร์ไร้สาย

หมายเหตุ

ติดตั้งซาวน์บาร์ไว้ใกล้ๆ กับซับวูฟเฟอร์แบบไร้สายที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งซาวน์บาร์อยู่ใกล้กับซับวูฟเฟอร์แบบไร้สาย คุณภาพเสียงจะยิ่งดีขึ้น โปรดทำให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างซาวน์บาร์และซับวูฟเฟอร์แบบไร้สาย เพื่อป้องกันการรบกวนจากสัญญาณไร้สาย ให้รักษาระยะห่างระหว่างซาวน์บาร์หรือซับวูฟเฟอร์แบบไร้สายกับอุปกรณ์ต่อพ่วงที่กำเนิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้มข้น (เช่น เราเตอร์ไร้สาย เตา ไมโครเวฟ ฯลฯ) อย่างน้อย 1 ม.

การจัดเตรียมเสียงรอบทิศทาง

ฟังก์ชันเสียงรอบทิศทางทำให้ท่านสามารถรับฟังเสียงในรูปแบบ 3 มิติจากแชนแนลเสียงต่างๆ ของลำโพง ไม่ว่าเนื้อหาที่บันทึกดั้งเดิมจะมีกี่แชนแนลก็ตาม

ยกตัวอย่างเช่น หากท่านฟังเพลงที่บันทึกแบบ 2.0 แชนแนล ด้วยซาวน์เอฟเฟกต์มาตรฐาน ท่านจะได้ยินความแตกต่างต่อไปนี้

เมื่อปิดเสียงรอบทิศทาง

เมื่อเปิดเสียงรอบทิศทาง

หมายเหตุ

ตำแหน่งของลำโพงดังต่อไปนี้ A ลำโพงหน้า B ลำโพงกลาง C ซัปวูฟเฟอร์

การเปิด/ปิดเสียงรอบทิศทาง

1. a กดปุ่ม ตั้งค่า ผลิตภัณฑ์จะเข้าสู่โหมดการตั้งค่า และท่านจะเห็น “OFF-AUTO POWER” หรือ “ON-AUTO POWER”

1. b ในขณะที่ “OFF-AUTO POWER” หรือ “ON-AUTO POWER” กำลังเลื่อนอยู่ในจอแสดงสถานะ ให้กดปุ่ม ซ้าย/ขวา เพื่อเลือกการตั้งค่าเสียงรอบทิศทาง ท่านจะเห็นสถานะของเสียงรอบทิศทางเป็น “OFF-SURROUND” หรือ “ON-SURROUND”

1. c ในขณะที่ “OFF-SURROUND” หรือ “ON-SURROUND” กำลังเลื่อนอยู่ในจอแสดงสถานะ ให้กดปุ่ม ขึ้น/ลง เพื่อเปิดหรือปิดเสียงรอบทิศทาง

เสียงลำโพงตามช่องอินพุต

ซาวน์เอฟเฟกต์	อินพุต	เอ้าท์พุต
AI SOUND PRO เสียงที่ปรับแต่งโดยปัญญาประดิษฐ์	2.0 แชนแนล
	5.1 แชนแนลหรือมากกว่า
STANDARD ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงที่เหมาะที่สุดได้	2.0 แชนแนล
	5.1 แชนแนลหรือมากกว่า
MUSIC เสียงที่เพิ่มคุณภาพด้วยเทคโนโลยี MERIDIAN	2.0 แชนแนล
	5.1 แชนแนลหรือมากกว่า
CINEMA เสียงภาพยนตร์ 3D	2.0 แชนแนล
	5.1 แชนแนลหรือมากกว่า
DTS VIRTUAL : X เสียงภาพยนตร์รอบทิศทางแบบเสมือนจริง	2.0 แชนแนล
	5.1 แชนแนลหรือมากกว่า
CLEAR VOICE เสียงร้องมีความชัดเจน ปรับปรุงคุณภาพของเสียงร้อง	2.0 แชนแนล
	5.1 แชนแนลหรือมากกว่า
SPORTS เสียงคล้ายสนามกีฬาจริง	2.0 แชนแนล
	5.1 แชนแนลหรือมากกว่า
GAME เพิ่มคุณภาพเสียงสำหรับเกม	2.0 แชนแนล
	5.1 แชนแนลหรือมากกว่า
BASS BLAST (หรือ BASS BLAST+) เสียงแบบเพิ่มเสียงเบส	2.0 แชนแนล
	5.1 แชนแนลหรือมากกว่า

การสำรวจผลิตภัณฑ์